ช่อง Youtube แบรนด์ตัวตน VS แบรนด์ธุรกิจ แบบไหนดี?
สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องของการทํา
Youtube
กันนะครับว่าเราจะสร้างตัวตนนะครับหรือว่าเราจะไม่สร้างตัวตนนะครับแบบไหนเนี้ยมันจะดีกว่ากันก็ใครสนใจหารายได้จาก
Youtube นะครับวันนี้เนี้ยเดี๋ยวผมจะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังกันนะครับก่อนอื่นก็ต้องบอกกันก่อนนะครับว่าในช่วงเริ่มต้นของการทําช่องเซียนเป็ดเนี่ยนะครับผมไม่ได้ตั้งใจที่จะเอาหน้าตัวเองเนี่ยออกมานะครับแต่ผมสร้างรูปเป็ดนะครับซึ่งเป็นรูปเซียนเนี่ยนะครับ
ขึ้นมาแล้วก็ให้มันเนี่ยเป็นตัวแทนของผมนะครับแล้วผมเนี่ยก็ไม่ออกหน้ากล้องเลยนะครับอัดหน้าจอพูดอย่างเดียวนะครับก็คือตั้งใจว่าจะทําเป็นช่องที่กลางๆ
นะครับไม่ได้แบบเจาะจงว่าให้รู้จักว่าเจ้าของช่องชื่ออะไรยังไงนะครับแต่ใช้ตัวโลโก้เนี่ยเป็นสัญลักษณ์นะครับเพื่อที่ว่าเวลาถ้าผมแบบอยากจะให้คนอื่นมาทําอะไรอย่างเงี้ยนะครับเออมันก็จะได้สลับไปได้ประมาณนี้นะครับแต่นะครับจุดเปลี่ยนมันก็คือนะครับความแตกต่างนะครับระหว่างที่เราสร้างตัวตนกับเราทําช่องที่มันไม่มีคนรู้จักเลยนะครับความยากง่ายเนี้ยผมบอกเลยว่าเอาหน้าตัวเองนะครับเอาบุคลิกลักษณะตัวเองเนี้ยออกมาแบบนี้เนี้ยนะครับมันโตเร็วกว่านะครับมันโตเร็วกว่าซึ่งตอนแรกเนี้ยผมก็ไม่รู้นะครับ
ว่ามันแตกต่างกันยังไงนะครับแต่ตอนทําไปทํามาเนี้ยก็รู้ล่ะนะครับว่าเออ
ถ้าเป็นคนพูดกันเนอะเรื่องบางเรื่องเนี้ยที่มันต้องอาศัยความเชื่อยังเงี้ยนะครับมันจะกว่าถ้ามันมีคนมาพูดนะครับแล้วก็รู้ว่าไอ้ตาเนี้ยน่ะ
มันเป็นใครนะครับเหมือนเวลาถ้าเราจะไปฟังว่าเขาพูดถึงเรื่องนะครับสุขภาพอย่างเงี้ยเออถ้าเป็นหมอแล้วก็ใส่เสื้อนะครับเสื้อกาวน์นะครับใส่แว่นมานะครับหน้าใสๆ
เวลาเราฟังเนี้ยเราก็จะเริ่มรู้สึกว่าอืมมันมีความน่าเชื่อถือมากกว่าน่ะแต่กลับกันเนี้ยถ้าเราไปฟังเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพอย่างเงี้ยแล้วมันมีแต่รูปภาพนะครับที่แบบว่าเป็น
Video Stock เงี้ยนะครับตัดไปตัดมาแล้วก็เราก็อาจจะไม่มั่นใจว่าเนี้ยมันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่านะครับก็เหมือนกันนะครับการทําเรื่องแนวแบบของผมเนี้ยก็คือเป็นการสอนไรเงี้ยนะครับเอาตัวตนออกมาเนี้ยนะครับทําให้ช่องโตเร็วกว่ามากเลยครับทีนี้เนี้ยก็จะมาแยกนะครับข้อดีข้อเสียของแต่ละประเภทให้ฟังกันนะครับว่าเออ
มันเป็นยังไงเผื่อใครที่กําลังลังเลนะครับว่าแล้วจะเริ่มยังไงดีนะครับก็ก่อนอื่นเนี้ยก็เอาไอสิ่งที่ผมทําอยู่ละกันนะครับก็คือการสร้าง
Personal Brandingหรือว่าการสร้างตัวตนเนี้ยนะครับจริงๆ
แล้วเนี้ยมันคืออะไรนะครับจริงๆ
แล้วเนี้ยมันก็คือการที่เปลี่ยนนะครับคนที่ไม่รู้จักคนที่ไม่รู้จักก็คือคนดูใน Youtube
นี่แหละเขาไม่ได้รู้จักเรามาก่อนเราเป็นใครที่ไหนเราก็ไม่รู้นะครับเริ่มต้นจากศูนย์เลยเพราะว่าเราก็ไม่ใช่ดาราถูกไหมครับเราจะเปลี่ยนคนพวกนั้นเนี้ยให้มาเป็นคนที่รักเราได้ยังไงนะครับก็คอนเซ็ปต์ของผมเลยก็คือเรามีสิ่งที่สามารถไปแก้ปัญหานะครับไปเปลี่ยนแปลงคนดูได้คนที่เข้ามารับชมวิดีโอผมถ้าเขาเอาสิ่งที่ผมบอกเนี่ยนะครับไปทําแล้วมันเกิดการเปลี่ยนแปลงนะครับได้ความรู้เปลี่ยนชีวิตนะครับได้เงินอะไรอย่างเงี้ยนะครับแน่นอนเขาก็อยากจะกลับมาดูคอนเทนต์ของผมต่ออันนี้คือคอนเซ็ปต์ที่ผมสรุปออกมาได้นะครับก็คือการสร้าง
Personal Branding เนี่ยมันจะต้อง step นี้เลยนะครับ
เดี๋ยวบอกข้อดีกันก่อนนะครับข้อดีกันก่อน
ข้อดีก็คือเนี่ยคนมันเชื่อใจกันง่ายถ้าเรามีลักษณะใน สื่อสารถ้าเรามีหน้าตาดี บุคลิกดีการพูดที่น่าเชื่อถือนะครับจัดไฟจัดแสงอะไรที่มันดูโอเคดูแบบโปรอย่างเงี้ยเออความน่าเชื่อถือมันมาเต็มนะครับแล้วคอนเทนต์ดีด้วยก็ยิ่งสนับสนุนในการที่ทําให้ช่องเราเนี่ยมันเติบโตรวดเร็วเลยนะครับข้อสองเนี่ยคนก็จดจําได้ง่ายนะครับจดจําได้นะครับว่าไอ้นี่หน้าตาอย่างงี้
ผู้หญิงผู้ชาย ผมสั้น ผมยาว ใส่แว่นพูดเหน่อ ลักษณะการพูดเป็นยังไงไทยคำอังกฤษคำ
มีจีนมีอะไรคนจดจําได้ง่ายแล้วยิ่งเราเน้นย้ำว่านะครับชื่ออะไร
แบรนด์ชื่ออะไรเนี่ยมันก็ยิ่งทําให้เรา เนี่ยติดตาติดใจนะครับคนที่มาดูเนี่ย
ได้ง่ายนะครับ
ข้อดีถัดมาก็คือนะครับการที่เราเป็นคนที่ออกมาหน้ากล้องแบบนี้เนี่ยสปอนเซอร์เข้ามาครับสปอนเซอร์เข้ามาติดต่อนะครับติดต่อให้เราไปรีวิวสินค้าเขาติดต่อให้เราไปเป็นวิทยากรนะครับติดต่อให้เราไปเป็นพรีเซ็นเตอร์อะไรสักอย่างหนึ่งนะครับก็คือเหมือนกับสมัยนี้
เนี่ยเราก็จะสังเกตว่าการจ้างหรือว่า KOL เนี่ยได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ
นะครับเพราะว่าแต่ละแต่ละที่เป็นไอดอลเนี่ยนะครับเขาก็จะมีลักษณะเฉพาะว่าถ้าเป็นคนประเภทนี้นะครับชอบกล้องนะครับคนประเภทนี้นะชอบฟุตบอลนะครับคนประเภทนี้เนี่ยชอบหุ้นชอบหวยเออ
มันก็จะแบ่งตามแต่ละบุคคลไปนะครับภาษาอังกฤษเขาเรียกว่าประเภทที่เป็นนิชของแต่ละกลุ่มนะครับมันแยกย่อยคือมันไม่แมสนะครับแบบนี้เนี่ยเขาเรียกว่าเป็นพวกไมโคร
นาโนนะครับInfluencer ประมาณนี้นะครับก็ฟังข้อดีไปแล้วนะครับต่อไปก็คือข้อเสียนะครับ
ข้อเสียมีอะไรบ้างหนึ่งก็คือนะครับก็ต้องตัวไว้นะครับว่า
เราเนี่ยจะต้องเตรียมโดนด่านะครับคือเราไม่ว่าเราจะทําดีแค่ไหนก็ตามนะครับสุดท้ายแล้วเนี่ยมันก็จะต้องมีคน
รุมด่าพูดดีก็ด่านะครับพูดไม่ถูกก็ด่านะครับคือทํายังไงก็โดนด่านะครับมีคนตําหนิ
มีคนค่อนแคะอันนี้เรื่องปกตินะครับช่วงแรกๆ ที่ผมทํานะครับ ที่เอาหน้าตัวเองออกมาประมาณนี้นะครับก็มีโดนประจํานะครับก็ปรี๊ดแตกปรี๊ดแตกตลอดเหมือนกันนะครับช่วงหลังเนี่ยก็ชินละนะครับเพราะเจอบ่อย
ๆต่อมานะครับข้อเสียก็คือสมมติว่าเบื้องหลังเราเนี่ยไม่ใช่คนที่ขาวสะอาดอะไรนักนะครับก็ถ้าเราดังขึ้นมาเนี่ยมีโอกาสที่
เราอาจจะโดนขุดนะครับโดนขุดย้อนหลังประวัติที่เรื่องราวที่ไม่ดีนะครับหรือว่าถ้าเราทํายูทูปขึ้นมาแล้วเนี่ยเราเฟคนะครับเราไม่จริงอ่ะเราพูดเรื่องราวที่ไม่จริงเราโชว์ยอดปลอม
ๆ
หรือว่าเราไปทําไม่จริงหรือว่าพูดความจริงแค่ครึ่งเดียวเพื่อเรียกยอดคนดูนะครับยอดคลิกเข้ามานะครับอะไรประมาณนี้เนี่ยนะครับหลัง
ๆเนี่ยคนเขาก็จะเริ่มรู้แล้วว่าไอ้เนี่ยมันของปลอมไอ้นี่มันไม่จริงไอ้เนี่ยมันเทาๆ
ดํา ๆก็แล้วแต่นะครับกลุ่มเป้าหมายประเภทไหนนะครับแต่นะครับ
ก็คือเราจะกลายเป็นบุคคลสาธารณะนะครับอดีตที่มันไม่ดีเนี้ยก็มีโอกาสที่จะกลับมาตามหลอกหลอนนะครับถ้าเราไม่จริงใจเนี้ยนะครับแล้วมันไปทําให้คนอื่นเนี้ยนะครับเข้าใจผิดเนี้ยเราอาจจะโดนนะครับทีนี้เนี้ยพอมันเริ่มเสียล่ะนะครับก็คือคนเนี้ยนะครับเราเนี้ยนะครับพอมันเริ่มเสียล่ะ
มีรอยตําหนิมีดราม่า
มีอะไรก็ตามนะครับก็คือเป็นสิ่งที่คนแบบยอมรับไม่ได้อย่างเช่นพวกทุจริต โกงหรือว่าอะไรพวกนี้นะครับเออมันเริ่มไม่โอเคล่ะนะครับแบรนด์
สินค้า
ผลิตภัณฑ์เนี้ยเขาก็จะไม่ค่อยจะมายุ่งกับเราอย่างเช่นถ้าเราแบบไปอย่างเช่นการพนันเงี้ยนะครับเออมันไม่โอเคล่ะ
นะครับแล้ววันดีคืนดีเนี้ยนะครับสิ่งที่เราสร้างมาก็คือตัวตนของเรา
แบรนด์ของเรานะครับมันก็พังไปเลยเพราะว่าอะไรนะครับเพราะว่าเราเอาตัวแบรนด์ของช่องเราเนี้ยไปผูกไว้กับตัวบุคคลนะครับตัวบุคคลที่เราทําออกมาเนี้ยมันไม่โอเคนะครับมันไม่ดีนะครับก็พังเลย
จบเลยต่อไปเนี้ยพูดอะไรเนี้ย
คนก็ไม่เชื่อนะครับก็จะเห็นว่าช่วงก่อนหน้านี้เนี้ยก็มี Youtuber ดังๆ เนี้ยนะครับก็โดนกระแสแบบนี้นะครับก็หายไปเลยนะครับชีวิตกําลังพุ่งดีเลยนะครับดูแบบน่าเชื่อถือน่าเลื่อมใสแล้วเป็นไงครับก็พังไปกับแบรนด์เลยนะครับเนื่องจากการที่ทําอะไรเอาไว้นะครับแล้วก็มันก็ตามกลับมาหลอกหลอนเราอะครับข้อเสียนะครับ
อันถัดมาก็คือนะครับไปไหนไม่ได้นะครับข้อเสียมันจะเยอะกว่านะครับสําหรับการทําส่วนตัวเนี้ยนะครับก็คือไปไหนไม่ได้เลยนะครับเพราะว่าอะไรนะครับ
ก็คือเราอ่ะเป็นเจ้าของช่องคนเขาติดเราอ่ะนะครับก็คือชอบตัวเราแบบนี้เนี้ยนะครับถ้าวันดีคืนดีเราหายไปอย่างเงี้ยนะครับก็จบเลยเราไม่สามารถไปหาคนมาทําแทนได้นะครับที่อเมริกาเนี้ย
มันจะมีช่องของเด็กอันนึงนะครับก็เป็นช่องที่ชื่อว่า Blippi นะครับ
Blippi เนี่ยนะครับก็เป็นนักแสดงนะครับเป็นบุคคลคนนึงนะครับที่เขาเอาตัวเองขึ้นมานะครับแล้วก็เป็นคาแรคเตอร์เนี่ยชื่อ
Blippi นะครับเขา
เหมือนเขาเริ่มไม่ไหวแล้วนะครับก็คือเขาอยากจะหาเวลาทําอย่างอื่นบ้างนะครับเขาก็ไปหาคนที่เป็นนักแสดงเนี่ยมาแสดงแทนปรากฏว่านะครับแฟนคลับนะครับที่อยู่ในช่องยูทูปเขาเนี่ยนะครับต่างไม่พอใจนะครับไม่พอใจมากที่ตัว
Blippi คนเดิมเนี่ยมันหายไปนะครับทีนี้เนี่ยก็เลย
มีแบบกระแสติดลบมากๆ เลยนะครับก็คือคนไม่ชอบล่ะเหมือนโดนหลอกลวงอะไรอย่างเงี้ยนะครับเนี้ยก็จะเป็นข้อเสียอย่างหนึ่งนะครับก็คือเราก็ต้องทํากับมันนะครับอยู่กับมันไปอยู่อย่างเงี้ยนะครับก็เลยเป็นสาเหตุว่าทําไมตอนเริ่มต้นเนี้ยเราก็ควรจะเลือกเรื่องนะครับที่เราสามารถทําอยู่กับมันเนี้ยนะครับได้เป็นห้าปีสิบปีเลยนะครับเพราะไม่งั้นเราเบื่อเราไปไหนไม่ได้นะครับเราเปลี่ยนคอนเทนต์
เราเปลี่ยนคนที่เอามาทําเนี้ยนะครับเป็นคนละคนเนี้ย
คนก็ไม่แล้วนะครับอันต่อมาก็คือสมมุติว่าถ้าเราอยากจะขายช่องของเราต่อเงี้ยครับขายธุรกิจของเรานะครับช่องนี้เนี้ยเราขายต่อ
ขายได้ไหมก็ไม่ได้เพราะว่ามันเป็น
นะครับบางคนเอาชื่อจริงนามสกุลจริงไปตั้งอย่างเงี้ยนะครับมันเป็นชื่อเรานะครับแล้วมันก็เสียไปเลยนะครับก็คือเราก็เอาไปให้เขาเนี้ยแล้วเขาก็เอาไปทําเป็นของเขาเองเงี้ยมันก็ไม่ใช่ถูกไหมครับมันขายต่อก็ยากนะครับอันต่อมาก็คือคนที่ทําช่องเด็กเนี้ยก็จะมีปัญหาเรื่องของเด็กโตขึ้นเรื่อยๆ
ถูกไหมครับอย่างที่อเมริกาเนี้ยก็จะมีRyan's Toyreview นะครับตอนนี้เนี้ยไรอัน
ก็โตขึ้นเรื่อยเรื่อยๆ เรื่อยๆ นะครับโตเร็วนะครับ
ไรอันเนี้ยก็เริ่มนะครับให้น้องนะครับ
น้องสาวเนี้ยมาทําแทนแล้วก็ขยายไปทําช่องแบบอื่นแทนนะครับก็เนี้ยคือข้อเสียนะครับแต่ว่าถ้าเป็นคนที่อายุแบบกลางๆ
แล้วนะครับก็โอเคนะครับทําไปได้เรื่อยๆแต่เด็กเนี้ยมันจะโตขึ้นโตขึ้นเรื่อยๆ
นะครับตอนที่คนดูเนี้ยเขาชอบเด็กคนนี้นะครับแต่ปรากฏว่าเด็กคนนี้เนี้ยโตขึ้นอะไรอย่างเงี้ยนะครับกลายเป็นผู้ใหญ่แล้วนะครับช่องเนี้ยก็เหมือนกับจบไปโดยปริยายนั่นเองนะครับอันนี้ก็ข้อเสียจะเยอะหน่อยนะครับอันนี้ก็บอกให้ฟังนะครับส่วนตัวผมเองเนี้ยผมก็ทําทั้งสองประเภทนะครับก็คือผมก็ทําช่อง
Personal Brand นะครับส่วนตัวแบบเนี้ยนะครับกับอีกประเภทนี้ก็คือทําเป็นแบบBusiness
Brand นะครับทําเป็นช่องกลางๆ ขึ้นมาแล้วก็ให้คนมาเสพคอนเทนต์นะครับก็ทดลองทําทั้งสองประเภทนะครับต่อไปนะครับก็เป็นช่องประเภทที่สองก็คือเป็นแบรนด์ที่แบบเหมือนเป็น
Business Branding นะครับให้เรานึกง่ายง่ายนะครับก็สมมติว่าถ้าเป็นแบรนด์ส่วนบุคคลเนี่ยก็คือคุณตันนะครับคุณตันใช่ไหมครับแล้วแบรนด์ทั่ว
ๆ ไปเนี่ยคืออะไรก็คืออิชิตันนะ ประมาณนี้นะครับช่อง Youtube ก็ประมาณนี้นะครับถ้าเราลองนึกดูช่องในยูทูปก็ได้อะไรที่มันเป็นแบบช่องกลาง
ๆ บ้างก็อย่างเช่นพวกช่องข่าวไทยรัฐ
ข่าวสดแบบนี้นะครับหรือว่าจะเป็นพวกช่องอาจารย์ยอดอะไรอย่างนี้นะครับก็คือไม่ต้องยึดติดกับตัวบุคคลนะครับเราสามารถเปลี่ยนนะครับถ้าเอาคนนี้มาอ่านข่าวแทนเอาคนนี้มาทําแทนสลับกันไปมานะครับแต่หลักเนี้ยก็คือช่องเนี้ยก็คือเป็นช่องนี้นะครับประมาณนี้นะครับ
ข้อดีก็คืออะไรนะครับก็ยิ่งนานยิ่งมีมูลค่าสูงนะครับถ้าให้นึกภาพง่ายง่ายก็คือ
oishi
นะครับแบรนด์ oishi อะครับเห็นไหมครับว่ายิ่งนานยิ่งมีมูลค่าสูงใช่ไหมครับสองก็คือขายต่อได้นะครับขายต่อก็คือเราสามารถเนี้ยเอาไปขายต่อให้กับบริษัทอื่นที่จะมารับช่วงต่อนะครับยกตัวอย่างเช่นที่ต่างประเทศเนี่ยก็จะมีช่องนะครับก็คือ
ABC KidS TV เนี่ยนะครับเป็นช่องที่ทําแอนิเมชั่นเนี่ยครับพอคาแรคเตอร์การ์ตูนมันเริ่มดังใช่มั้ยครับก็มีบริษัทเนี่ยเข้ามาซื้อกิจการเสร็จแล้วเนี่ยเขาก็เอาไปทําคอนเทนต์ของเขาต่อแล้วก็เปลี่ยนแบรนด์ใหม่ก็เป็น
CocoMelon นะครับอันนี้ก็เป็นการขายต่อเนี่ยนะครับเหมือนเราปั้นธุรกิจมันแล้วเราก็ขายต่อเนี่ยมันจะง่ายนะครับข้อสามก็คือหาคนมาทําแทนได้นะครับคือเราอ่ะอาจจะเฟดออกมาแล้วก็สร้างแบบเป็นแพลนเอาไว้เป็นแผนงานเอาไว้แล้วก็หาคนเนี่ยมาทําแทนเรานะครับให้มันรันไปได้ด้วยตัวเองช่อง
Youtube ก็รันไปโดยที่ไม่ต้องมีเราก็ได้นะครับสุดท้ายก็คือช่องที่เป็น
Business Branding เนี่ยมันสเกลได้ง่ายนะครับสเกลในที่นี้ก็คือสมมุติว่าถ้าผมทําช่องส่วนตัวอย่าง
เงี้ยนะครับผมจะเอาตัวเอง เนี่ยไปพูดภาษาสเปนจะไปพูดเป็นภาษาอังกฤษ
ภาษาฮินดี้อย่าง เงี้ย นะครับเออ
มันไม่ได้เพราะว่าผมพูดได้ภาษาเดียวถูกไหมครับแต่ว่าถ้าเราทําช่องกลางๆ
นะครับทําช่องที่สามารถเอา content ตัวเดิมนะครับแต่เปลี่ยนคําพูดนะครับเปลี่ยนเสียงเป็น
voice over เป็นภาษาอื่นนะครับมันก็จะสามารถสเกลได้ซึ่งถ้าในประเทศไทยเนี่ยเราก็จะเห็นพวกช่องชีวิตสดใสอย่างเงี้ยก็มาทําเวอร์ชั่นภาษาไทยนะครับหรือว่าช่องอ่านนิทานนะครับช่องอ่านนิทานเนี่ยก็จะเป็นนิทานไทยใช่มั้ยครับเขาก็
เป็นคนอินเดียมั้งรู้สึกจะเป็นเจ้าของเป็นคนอินเดียเงี้ยเขาก็ทํานิทานทั่วโลกเลยนะครับแล้วทําแยกแต่ละประเทศเลยนะครับว่าอ่า
ประเทศจีน
นิทานจีนอะไรประมาณนี้นะครับก็คือมันสามารถสเกลเนี่ยไปได้มากนะครับส่วนข้อเสียนะครับ
ข้อดีมีเยอะแล้วนะครับส่วนข้อเสียกันบ้างคืออะไรนะครับทํายากนะครับผมลองทําดูแล้วนะครับยากเลยนะครับเพราะว่ากว่าจะปั้นกว่าจะทําคอนเทนต์นะครับโหยากมาก
ทําช่อง Personal
Branding เนี่ยง่ายง่ายกว่ามากนะครับดังนั้นเนี่ยใครที่เพิ่งเริ่มต้นนะครับจะทําก็ถ้าจะแนะนําเลยเนี่ยนะครับก็เอาตัวเองนะครับ
ขายตัวเองก่อนเพราะว่าขายตัวเองเนี่ยมันง่ายกว่านะครับทําช่องสิ่งที่เราชอบนะครับมันก็จะง่ายแล้วมันเริ่มต้นได้เร็วนะครับแต่สิ่งที่อยากจะให้ตระหนักไว้ดีๆ
นะครับ
ก็คือโฟกัสไว้เลยว่าถ้าเราจะทําช่องส่วนตัวแบบนี้นะครับอย่างแรกควรจะตั้งกฎไว้เลยก็คือหนึ่งนะครับเราต้องจริงใจต่อคนดูนะครับคือไม่เฟคอะครับไม่แบบว่าสร้างข่าวคงทําอะไรที่มันไม่จริงนะครับไม่ใช่ตัวของตัวเองนะครับพยายามแปลงเป็นคนอื่นอะไรอย่างเงี้ยทั้ง
ๆ ที่ตัวเองนิสัยแบบนี้แต่พยายามพูดแบบนี้นะครับสิ่งที่เพื่อน
ๆเห็นในช่องของผมเนี่ยก็คือตัวตนของผมเลยนะครับไม่ได้เฟคนะครับ
ถ้าไปเจอผมข้างนอกเนี่ยก็เนี่ยมันก็จะอย่างนั้นนะครับต่อมานะครับ
จริงอันแรกจริงใจนะครับต่อมาก็คือทําให้มันแตกต่างคือคนเนี่ยนะครับมีเต็มไปหมดเลยนะครับที่จะออกมาหน้ากล้องเนี่ยดารานะครับ
หมอ ทหารอะไรเต็มไปหมดเลยครับตอนนี้สิ่งที่เราต้องพยายามสร้างก็คือสร้างความแตกต่างนะครับแตกต่างจากอะไรนะครับหน้าตา
คําพูด เสียงนะครับคาแรคเตอร์
โทนสีนะครับใส่เสื้อเหมือนเดิมนะครับอะไรก็ได้ที่ทําให้คนจดจําได้ง่ายนะครับสุดท้ายก็คือให้เราเริ่มต้นนะครับเป็นช่องเฉพาะทางเพราะว่ามันจะเริ่มต้น
เนี่ยนะครับ มันจะง่ายกว่าถ้าเราทําแบบหลากหลายผมเห็นเพื่อนๆ เนี่ย
นะครับทําหลากหลายเลยนะครับทั้งกินทั้งเที่ยวนะครับทั้งทํา Youtube นะครับอยู่ในช่องเดียวกันหมดนะครับโอ้โห มันมั่วไปหมดเลยนะครับแบบนี้
เนี่ย
มันจะยากเพราะว่าอะไรเพราะกลุ่มคนดูมันหลากหลายเกินไปนะครับก็ถ้าใครที่จะเริ่มต้นทําเป็น
Personal Branding นะครับก็ลองจับหลักนะครับประสบการณ์ที่ผมเคยทํามานะครับแล้วก็ลองเอาไปประยุกต์ใช้กันดูนะครับโอเคครับวิดีโอนี้ก็ถ้าชอบนะครับอย่าลืมช่วยกดไลก์ให้ผมด้วยนะครับกดไลก์
กด Subscribe นะครับแล้วก็กดกระดิ่งแจ้งเตือนกันด้วยนะครับพบกันใหม่วิดีโอหน้านะครับสําหรับวันนี้สวัสดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น