วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

5 นิสัยที่เปลี่ยนแล้ว ชีวิตดีขึ้นแน่นอน


 

สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาแชร์ไอเดียนะครับว่าห้านิสัยอะไรที่เราเปลี่ยนแล้วเนี่ยชีวิตจะดีขึ้นแน่นอนนะครับซึ่งผมก็ได้ทดลองทํามาแล้วนะครับแล้ววันนี้เนี่ยก็เลยจะเอามาแชร์ให้เพื่อนๆ นะครับว่าเราควรจะเปลี่ยนนิสัยอะไรแล้วชีวิตมันจะดีขึ้นได้ยังไงนะครับ

 

นิสัยแรกนะครับ ที่ควรจะเปลี่ยนก็คือชอบพูดว่าทําไม่ได้นะครับไม่ว่าจะมีโอกาสหรือว่าจะมีใครมาบอกให้ทําอะไรนะครับเราจะพูดทันทีนะครับเป็นอัตโนมัติเลยก็คือทําไม่ได้จะชอบพูดแบบนี้เป็นประจํานะครับมีใครเป็นบ้างไหมนะครับคือเวลาถ้าเราอยู่ในอะไรที่ความคุ้นเคยเดิมๆ นะครับเขาเรียกว่า Comfortzone เนี่ยนะครับเรามักจะเคยชินกับอยู่ตรงจุดนั้นพอมันมีอะไรใหม่ๆ เข้ามานะครับเรามักจะเหมือนปิดกั้นตัวเองนะครับบอกว่าเราทําไม่ได้เราจะหาข้ออ้างมาว่าเราทําไม่ได้เพราะว่าอะไรนิสัยนี้เนี้ยก็อยากจะให้ลองเปลี่ยนนะครับคือเปลี่ยนปุ๊บเนี้ยมันเปลี่ยนไม่ได้หรอกครับมันต้องคิดหาเหตุผลว่าเราจะเปลี่ยนเพราะว่าอะไรแล้วไอสิ่งเดิมที่มันมีอยู่เนี้ยมันไม่ดีเนี้ยมันจะเกิดโทษอะไรนะครับพอเราเห็นโทษแล้วเราเห็นประโยชน์นะครับแล้วเราปรับสภาพแวดล้อมของเราให้มันดีขึ้นเนี้ยนะครับเราถึงจะเปลี่ยนนิสัยได้นะครับแต่ก่อนที่เราจะไปตอบนะครับเราจะไปพูดว่าทําไม่ได้เนี้ยก็ให้เราคิดก่อนนะครับว่าเออสิ่งที่เป็นโอกาส สิ่งที่เข้ามาเนี้ยนะครับมันใช่โอกาสที่ดีจริงหรือเปล่าให้เราหยุดคิดก่อนคือเราไม่ต้องไปรีบตอบไม่ต้องไปรีบมีปฏิกิริยาอัตโนมัติเลยนะครับให้เราคิดก่อน หยุดคิดก่อนนะครับบางทีถ้าใช้เวลาแป๊บเดียวไม่ได้ก็ให้เวลาตั้งหนึ่งวันก็ได้นะครับคิดว่าโอกาสนั้นเนี้ยมันดีจริงๆ หรือเปล่ามันผิดกฎหมายไหม มันผิดศีลธรรมไหมมันไปทําให้ใครเดือดร้อนรึเปล่าถ้ามันไม่ได้ทําให้ใครเดือดร้อนเนี้ยนะครับก็ลองทําดูมันไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่ครับบางครั้งเนี้ยนะครับโอกาสเนี้ยมันก็ไม่ได้มากันบ่อยๆถ้าเราปฏิเสธไปแล้วเนี้ยนะครับต่อไปในอนาคตเนี้ยเราอาจจะกลับมาแล้วก็รู้สึกว่าเสียดายจังเลยที่วันนั้นเนี้ยไม่ได้ทดลองทํานะครับบางทีเนี้ยโอกาสแค่ครั้งเดียวเนี้ยมันก็ทําให้ชีวิตของเราเปลี่ยนไปเลยนะครับดังนั้นเนี้ยก็ลองใช้วิธีนี้ดูนะครับว่าปัจจุบันเนี้ยนะครับ มันโอเคไหมนะครับถ้ามันไม่โอเคแล้วมันมีโอกาสเข้ามาเนี้ยนะครับโอกาสนี้เนี้ยมันเป็นโอกาสที่ดีรึเปล่าถ้าดีนะครับ ให้เราเลิกพูดคําว่านะครับทําไม่ได้แต่ให้เปลี่ยนเป็นพูดว่านะครับจะลองทําดู จะลองหาวิธีทําให้มันได้แค่เราเปลี่ยนวิธีคิดแค่เนี้ยนะครับเราก็จะได้โอกาสเพิ่มมากขึ้นและก็อีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของอุปสรรคนะครับบางทีโอกาสเนี้ยมันไม่ได้มากันง่ายๆ หรอกนะครับบางทีโอกาสมันจะมาในรูปแบบของอุปสรรคถ้าเราทําอะไรแล้วรู้สึกว่าเอออุปสรรคเยอะจังเลยนะครับโดนนู่นนี่นั่นใครก็ไม่รู้นะครับมาห้ามให้ทํา โดนเหตุการณ์บ้านเมือง ลมฟ้าฝนนะครับทําให้มันเป็นอุปสรรคเนี้ยก็แสดงว่าอันนี้เนี้ยเป็นโอกาสเหมือนกันแต่ว่ามาในรูปแบบของอุปสรรคก็ให้เรานะครับดูว่าโอเคอุปสรรคพวกนี้เนี้ยมันมีทางแก้ตรงไหนบ้างนะครับถ้าวันนี้ไม่ได้ไม่เป็นไรนะครับอนาคตเราจะทําให้มันได้ให้คิดแบบนี้นะครับวิธีคิดของการที่บอกว่าวันนี้เนี้ยนะครับ ไม่ได้ไม่เป็นไรแต่ว่าอนาคตเนี้ยจะต้องทําให้ได้เนี้ยนะครับผมเองเนี้ยเจอมากับตัวเลยผมไปดูหนังสมัยก่อนเนี้ยหนังชื่อ Butterfly Effect นะครับซึ่งพระเอกชื่อ Asthin Kutcher นะครับหนังเก่าล่ะนะครับเขาบอกว่าผีเสื้อกระพือปีกเนี้ยอีกฝั่งหนึ่งของโลกเนี้ยมันสามารถสร้างทอร์นาโดฝั่งหนึ่งของโลกได้เลยนะครับพอฟังแล้วผมก็เข้าใจทันทีว่าอ๋อแค่ลมพัดนะครับเบาๆ เนี้ยนะครับมันมีปฏิกิริยาเนี้ยผลกระทบไปเยอะขนาดนี้เลยหรอนั่นก็หมายความว่าถ้าเราลงมือทําอะไรสักอย่างหนึ่งนะครับทีละนิดทีละน้อยนะครับแล้วก็ทําเป็นประจําสม่ำเสมอเนี้ยในอนาคตเนี้ยมันอาจจะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้นะครับซึ่งตอนนี้เนี้ยผมทดลองมาล่ะไอเรื่องเนี้ย Butterfly Effect ผมดูเนี้ยผมเข้าใจนะครับตั้งแต่สมัยเมื่อตอนผมทํางานประจํานะครับอยู่รถไฟใต้ดินนะครับปัจจุบันนี้นะครับ ผลลัพธ์เกิดขึ้นแล้วนะครับเพราะว่าสิ่งที่ผมทําทีละเล็กทีละน้อยในแต่ละวันเนี้ยปัจจุบันมันส่งผลนะครับทําให้ผมเนี้ยมีอิสรภาพนะครับในการที่จะไม่ต้องตื่นไปทํางานหรือว่าทํางานที่ไม่ชอบนะครับปัจจุบันเนี้ยก็คือใช้ความรู้ที่เราได้สะสมลงมือทํามาเนี้ยก็ใช้ชีวิตได้อย่างไม่ลําบากลําบนเหมือนสมัยก่อนนะครับแล้วก็มีหนังอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะให้เพื่อนๆ ลองไปดูกันนะครับชื่อว่าSliding Doors นะครับเป็นหนังเก่าล่ะนะครับนางเอกชื่อ Gwyneth Paltrow นะครับคือมันจะแบ่งสองโลกนะครับโลกหนึ่งเนี้ยนางเอกเนี้ยขึ้นรถไฟทันนะครับกับอีกโลกหนึ่งก็คือนางเอกขึ้นรถไฟไม่ทันผลลัพธ์ทั้งสองคนเนี้ยแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเพราะว่านางเอกที่ขึ้นรถไฟไม่ทันเนี้ยนะครับกลับบ้านไปเจอนะครับผัวมีชู้แต่อีกคนที่ขึ้นรถไฟทันเนี้ยนะครับก็ใช้ชีวิตอย่างปกติสองคนเนี้ยปลายทางทั้งคู่เนี้ยแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงมันทําให้เห็นถึงอะไรนะครับมันทําให้ผมคิดได้ว่าเวลาเนี้ยมันมีความสําคัญมากพอเราคิดว่าเวลามันมีความสําคัญมากเราก็เลยจะให้ความสําคัญกับเวลามากนะครับเราจะไม่ใช้เวลาไปโดยเปล่าประโยชน์เพราะว่าเวลาเนี้ยมันย้อนคืนไม่ได้เวลาที่เรามีเนี้ยนะครับมันสร้างความเปลี่ยนแปลงได้โดยสิ้นเชิงนะครับดังนั้นเนี้ยคนที่เห็นความสําคัญของเวลาเนี้ยนะครับสังเกตง่ายๆ ก็คือเวลาเรานัดใครแล้วเนี้ยนะครับก็จะเป็นคนที่ไปก่อนเวลานะครับไม่ทําให้คนอื่นเนี้ยรู้สึกว่าเสียเวลาของเขานะครับเพราะว่าเวลาของคนอื่นเนี้ยก็มีค่าเหมือนกันแล้วก็เวลาที่จะลงมือทําอะไรสักอย่างเนี้ยเขาจะมักจะลงมือทําทันทีเพราะว่าเขาเห็นว่าเวลาเนี้ยมันมีค่ารอเนิ่นนานเกินไปเนี้ยนะครับก็จะทําให้สําเร็จช้าดังนั้นเนี้ยพอคิดปุ๊บเนี้ยก็เลยจะทําปั๊บทันทีพฤติกรรมนี้เนี่ยก็คือเป็นนิสัยที่ผมได้มานะครับจากการดูหนังทั้งสองเรื่องเนี้ยนะครับ

 

นิสัยที่สองนะครับนิสัยที่สองก็คือพยายามช่วยเหลือตัวเองก่อนถ้าไม่ไหวจริงๆ เนี้ยค่อยไปหาคนอื่นมาช่วยนะครับซึ่งเป็นนิสัยที่ตอนแรกเนี้ยนะครับก็คือเป็นคนที่หวังพึ่งคนอื่นตลอดเวลานะครับตอนเด็กๆ เนี้ยก็คือหวังว่าเพื่อนคนนั้นจะมาช่วยนะครับหวังว่าพ่อแม่จะมาช่วยนะครับหวังว่าญาติจะมาช่วยแทนที่เราจะไปคิดว่าเออทําไมเราไม่ดลองลงมือทําเองนะครับอันนี้เนี่ยก็ใช้เวลาปรับเปลี่ยนพอสมควรตอนหลังเนี่ยก็คือลองลงมือทําเองดูก่อนเกิดความล้มเหลว เกิดอุปสรรคนะครับลองแก้ปัญหาดูก่อนแก้ปัญหาไม่ได้นะครับไปเปิด Googleไปเปิดวิดีโอ Youtubeไปถามคนอื่นทําทดลองทําหมดพอไม่ไหวจริงๆ เนี่ยแล้วเราค่อยไปหาความช่วยเหลือนิสัยที่ทดลองทําเองล้มเหลวเองนะครับไปหาความรู้ไป Google ไปเปิดหนังสือไปซื้อหนังสือมาอ่านเนี่ยนะครับมันเกิดจากการที่ออกจากงานประจํามาพอออกจากงานมามาเนี้ยนะครับมันไม่มีหัวหน้ามาสั่งว่าจะต้องทํางานอะไรเราจะต้องคิดเองหมดเลยพอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาก็คือเราจะต้องคิดเองทุกอย่างว่าจะต้องมีวินัยทําให้เราต้องสู้ทุกอย่างทําเองทั้งหมดก็เลยเป็นนิสัยที่เปลี่ยนแล้วมันก็ได้ผลจริงๆ นะครับก็คือเวลามีปัญหาอะไรเนี้ยก็จะลองลงมือทําแก้ไขเองนะครับจะไม่รอโชคชะตาจะไม่รอคนอื่นนะครับว่าเอ่อเดี๋ยวจะต้องมีคนมาช่วยเราอะไรเงี้ยนะครับก็คือสู้เองก่อนก็กลายเป็นว่านิสัยแบบนี้เนี้ยนะครับเวลาผมไปเจอใครที่เขาพยายามผมยินดีมากเลยที่จะไปช่วยเหลือเขานะครับคือเขาพยายามแล้วแหละอย่างน้อยเนี้ยใครที่ได้ลงมือทําพยายามแล้วเนี้ยนะครับแบบนี้เนี้ยเราอยากจะไปช่วยเหลือเขานะครับอันนี้เนี้ยก็เป็นเทคนิคนิดหนึ่งนะครับว่าถ้าเราจะไปขอความช่วยเหลือใครเนี้ยนะครับเราอย่างน้อยเนี้ยจะต้องบอกต้องแสดงว่าเราอ่ะมีความพยายามแล้วน่ะแต่ว่ามันติดจริงๆ เออแบบนี้เนี้ยคนอื่นเขาก็อยากจะมาช่วยเรานั่นเองนะครับ

 

สามนะครับนิสัยที่เปลี่ยนแล้วก็ทําให้ชีวิตดีขึ้นก็คือนะครับอยากให้คําพูดของคนอื่นเนี้ยนะครับมาทําให้เราลังเลคําพูดของคนอื่นคืออะไรนะครับเพื่อน คนรอบข้าง คนที่อยู่ในสังคมเราในปัจจุบันนะครับบางทีเนี้ยเราหาข้อมูลมาดีล่ะเราคิดแผนสํารองเราหาวิธีการเนี้ยมาพร้อมล่ะแต่คนรอบข้างที่เขาไม่เคยจะทําอะไรมาเลยนะครับมาบอกเราว่ามันทําไม่ได้หรอกมัน มันไม่มีใครทํามาก่อนมันล้มเหลวแน่นอนเนี้ยคนแรกเนี้ยก็ไม่เป็นไรหรอกแต่พอไปฟังคนที่สอง คนที่สาม คนที่สี่เอ้าเรากลับเชื่อเฉยเลยบางทีมันก็เสียโอกาสเหมือนกันเพราะว่าโอกาสเนี้ยมันมาถึงแล้วนะครับเราคิดไว้ทุกอย่างไว้รอคอบแล้วย้ำว่าเราต้องคิดไว้อย่างรอบคอบแล้วแล้วก็มีแผนสํารองแล้วเนี้ยนะครับเราลงมือทําเลย เราลุยไปเลยนะครับเราไม่ต้องไปสนใจนะครับว่าคนเขามาบอกว่าไม่เวิร์กหรอกเราต้องแยกระหว่างคนที่เตือนเนี้ยนะครับเตือนเพราะหวังดีนะครับโอเคเรารับฟังไม่ใช่เป็นคนหัวดื้อหัวแข็งนะครับเขาเตือนมาแล้วเราลองมาวิเคราะห์ดูว่าคําเตือนนั้นเนี้ยมันไหมเรามีแผนรับมือคําเตือนนั้นหรือยังเนี้ยเราฟังแบบนี้นะครับแต่บางทีเนี้ยนะครับคนบางคนเนี้ยไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยนะครับก็พูดส่งๆ ไปงั้นแต่เราไปดันเชื่อนะครับอันนี้ก็ทําให้เราเนี้ยเสียโอกาสเหมือนกันแล้วก็แบบเวลาเราไปอยู่ใน Facebook Group เนี้ยเราไปศึกษาหาความรู้เนี้ยคนไหนที่ลักษณะเหมือนว่าจะเทพหรือว่าคนนั้นเนี้ยเทพจริงๆ เนี้ยลองฟังปุ๊บเราอย่าไปเชื่อเขาทันทีนะครับเราต้องเอามาทํามาคิดไตร่ตรอง มาลงมือทําเองดูก่อนด้วยนะครับผมเองก็เคยมีประสบการณ์เหมือนกันนะครับผมก็ดูแล้วเนี้ยโอ้คนนี้มันเทพนี่หว่านะครับก็ไปฟังนะครับเออแล้วก็ตอนหลังเนี้ยผมก็มาลองมาลงมือทํามันไม่เหมือนที่เทพมันพูดเลยนี่หว่านะครับบางทีผมก็ดูว่าเออมันเป็นเทพเก๊หรือเปล่าบางทีคนนี้เขาไม่รู้จริงหรือเปล่าอะไรแบบนี้นะครับถ้าเราไปอยู่กลุ่มอะไรแบบนี้เนี่ยนะครับแล้วมันมีคนแบบนี้เยอะๆ เนี่ยก็ให้เราออกไปเลยนะครับเพราะว่ามันจะกลายเป็นกลุ่มที่รวบรวมคนที่รู้แค่หนึ่งนะครับไม่ถึงสองรู้นิดๆ หน่อยๆ แล้วก็มาพูดแบบนี้เราก็บางทีเราก็ไปฟังแล้วมันก็เสียเวลาเรานะครับแล้วก็ไม่ได้ทําให้ชีวิตเรามันดีขึ้นนะครับก็ย้ำว่านะครับ เวลาได้ยินได้ฟังอะไรมานะครับก็อย่าเพิ่งไปเชื่อนะครับ อย่าเพิ่งไปตัดสินใจทันทีอย่าเพิ่งไม่เชื่อว่าอย่าเพิ่งเชื่อทันทีนะครับเอาข้อมูลนั้นน่ะเอามาทดลองทำดูส่วนมันจะได้ผลไม่ได้ผลยังไงอ่ะเรารู้อยู่กับตัวเองนะครับเราไม่ต้องให้คนอื่นเนี้ยนะครับมามีอิทธิพลเหนือเราเหมือนผมเนี้ยพูดเนี้ยนะครับเพื่อนๆ ไม่ต้องเชื่อหรอกครับเอาไปลงมือทําดูไปลองคิดไตร่ตรองดูเองนะครับแล้วลองดูว่ามันได้ผลไม่ได้ผลยังไงนะครับ

 

สี่ก็คือไม่ต้องให้ทุกคนเนี้ยมาชอบเราก็ได้สมัยผมเป็นเด็กๆ วัยรุ่นไรงี้นะครับผมก็คิดอยู่เสมอว่าเอ๊ะทําไมตัวเราเนี้ยรู้สึกว่าเหมือนไม่ค่อยชอบเข้าสังคมพอเวลาพยายามจะเข้าไปสังคมนะครับสังคมของคนอื่นเนี้ยมันฝืนๆมันเป็นเพราะเนาะตอนหลังก็อ๋อคนแบบเราเนี่ยเขาเรียกว่า Introvertก็คือไม่ชอบเป็นจุดเด่นนะครับไม่ชอบไปที่คนเยอะๆ นะครับไม่ชอบแบบพูดเยอะอะไรอย่างงี้นะครับการเป็น Introvert เนี่ยนะครับมันจะไม่เหมือนคนขี้อายนะครับคนขี้อายก็คือจะเป็นอีกเรื่องนึงนะฮะIntrovert เนี่ยก็จะเป็นเหมือนกับเค้าเลือกคบคนไรงี้นะครับส่วนอีกฝั่งนึงเนี่ยเขาเรียกว่า Extrovert นะครับก็ไม่รู้ใครคิดขึ้นมานะครับผมก็เลยเข้าใจว่าอ๋อโอเคแบบเรานี่คงเรียกว่าเป็น Introvert เนาะทีนี้เนี่ยสมัยก่อนเนี่ยนะครับด้วยความที่สังคมหมู่มากนะเค้าเป็นอย่างงี้นะผมก็อยากจะไปเป็นแบบนั้นบ้างนะครับซึ่งทําให้ผมก็พยายามปรับตัวเองเปลี่ยนตัวเองนะครับให้เป็นคนที่เข้าสังคมได้นะครับให้มีคนที่ทําให้คนอื่นชอบมาชอบเราก็คือพยายามทําให้คนอื่นเนี่ยพอใจทั้งที่มันไม่ใช่ตัวเราเองนะครับอันนี้เนี่ยก็เป็นอะไรที่แย่มากๆ นะครับกว่าจะมีความเป็นตัวของตัวเองกลับมาได้เนี่ยนะครับก็ต้องใช้เวลาความเป็นตัวของตัวเองเนี่ยนะครับก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นแบบว่าต่อต้านสังคมเราก็ต้องดูโลกด้วยนะครับเราควรรู้กาลเทศะดูบริบทของสังคมว่าสังคมนี้เนี่ยขนบธรรมเนียมประเพณีเนี่ยมันเป็นยังไงนะครับเราไปอยู่ประเทศไหนญี่ปุ่น เกาหลีทุกประเทศเนี่ยมันจะมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่นั่นเนี่ยมันจะมีของแต่ละประเทศเราอยู่ในสังคมเนี่ยเราจะมีความเป็นตัวของตัวเองได้แต่เราก็ต้องดูกาลเทศะด้วยนะครับพอเรารู้จักตัวเองดีแล้วเนี่ยนะครับเราก็ต้องเลือกสังคมดูด้วยนะครับสังคมไหนนะครับที่เหมาะกับเราคือเราเนี่ยไม่ต้องมีเพื่อนเยอะก็ได้นะครับอันนี้ผมพูดถึงคนที่เป็น Introvert เหมือนผมครับก็เราไม่ต้องมีเพื่อนเยอะก็ได้ขอให้แค่มีคุณภาพก็พอขอแค่เราเนี้ยนะครับช่วยส่งเสริมกันและกันไม่ใช่แบบว่าดึงเราตกต่ำลงไปอย่างงี้นะครับแบบเนี้ยไม่เอานะครับเพื่อนที่ดีเนี้ยควรจะสนับสนุนเกื้อหนุนกันดีนะครับตรงนี้เนี้ยก็เป็นบทเรียนที่ผมได้มาจากในอดีตนะครับก็คือเราควรเป็นตัวของตัวเองนะครับแล้วก็ไม่ต้องไปสนใจนะครับคนอื่นว่าจะคิดยังไงกับเราแต่ก็ต้องไม่ละเลยในการที่ดูบริบทของสังคมดูกาลเทศะด้วยนะครับไม่ใช่เป็นตัวของตัวเองแล้วเนี่ยนะครับไม่สนผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่รู้จักกาลเทศะนะครับไม่รู้จักบริบทของสังคมอันนี้เนี้ยนะครับคือเราจะอยู่ในสังคมได้เนี้ยแต่ว่ามันจะมีปัญหานะครับ

 

นิสัยที่ห้าเนี้ยก็คือทําอะไรเลาะแหละ โลเลนะครับทําอะไรไม่จริงจังอันนี้เนี้ยผมเป็นคือทําปุ๊บปั๊บเลิกทําปุ๊บปั๊บเลิกเนี้ยนะครับอันนี้ไม่ดีมากๆ เลยนะครับคือพอเรารู้แล้วเนี้ยครับว่าตรงนี้มันเป็นโทษนะครับถ้าเราเลาะแหละทํา โลเลอะไรไม่จริงจังเนี้ยนะครับอนาคตเนี้ยมันไม่ดีแน่นอนเราไม่รอดแน่นอนยิ่งเราทําอาชีพอิสระแบบนี้เนี้ยพอมาทําอาชีพอิสระนะครับทำงานออนไลน์แบบนี้เนี้ยมันจะทําให้เราต้องมีวินัยแล้วก็เราจะต้องใช้เวลาให้เกิดประโยชน์มากที่สุดเราต้องใช้เวลาทุกนาทีให้คุ้มค่านะครับดังนั้นเนี้ยมันจะกลายเป็นนิสัยที่ทําให้เป็นคนที่ไม่ผลัดวันประกันพรุ่งนะครับคิดปุ๊บทําปั๊บ มีไอเดียทําทันทีนะครับทําไรทําทันทีไม่ต้องรีรอนะครับไม่ต้องรอพรุ่งนี้ไม่ต้องรอมะรืนนะครับแล้วก็เวลาทําอะไรเนี้ยนะครับก็อย่าทําให้เหมือนไฟไม่ฟางทํา Youtube เนี้ยครับถ้าทําเหลาะแหละๆ เนี้ยนะครับขยันเดือนเดียวเนี้ยนะครับแล้วเลิกเนี้ยแบบนี้ไม่โอเคผมเข้าใจในเรื่องของการทําอะไรสม่ำเสมอเนี้ยมันเป็นเคล็ดลับมากมากเลยนะครับทําบล็อกเนี้ยก็ใช้เวลากว่าผลลัพธ์มันจะเกิดขึ้นหกเดือน หนึ่งปีทํา Youtube ก็เหมือนกันตอนนี้เนี้ยมาศึกษาเรื่องการลงทุนในหุ้นเนี้ยก็เหมือนกันเลยเวลาเนี้ยมันจะทําให้ดอกเบี้ยทบต้นนะครับสร้างพลังได้ยิ่งใหญ่ในอนาคตหลักการเดียวกันหมดเลยก็เลยเป็นเวลาทําอะไรก็ตามก็จะนึกถึงนะครับนึกถึงภาพตลอดว่าเออเราปลูกต้นไม้เนี้ยนะครับเราปลูกต้นไม้เนี้ยมันต้องใช้เวลาน่ะนะครับห้าปีสิบปีกว่ามันจะเป็นต้นไม้โผล่ขึ้นมาเนี้ยนะครับเราไม่ได้ปลูกงอกดังนั้นเนี้ยเวลาที่ผมทําอะไรทุกอย่างเนี้ยผมก็จะคิดอย่างงี้ตลอดนะครับว่าโอเคมันต้องใช้เวลาน่ะบางทีเนี้ยนะครับมันไม่ได้ผลดั่งใจเนี้ยนะครับก็ไม่เป็นไรแต่ว่าเราอดทนทํานะครับไม่ทําอะไรเหลาะแหละทําให้มันได้ผลจริงๆ นะครับเสร็จแล้วเนี้ยพอผลลัพธ์ที่มันเกิดขึ้นนะครับสําเร็จแล้วเนี้ยนะครับมันก็จะเป็นอะไรที่เลี้ยงดูเราไปตลอดชีวิตนะครับเหมือนที่เราปลูกต้นไม้นะครับเหมือนผมทําบล็อกเนี้ยนะครับผมทํา Youtube เนี้ยนะครับมันให้ผลตอนนี้เนี้ยผมก็เก็บกินได้สบายๆ นะครับทั้งหมดห้าข้อเป็นเทคนิคในการที่เปลี่ยนนิสัยแล้วเนี้ยชีวิตมันดีขึ้นนะครับเพื่อนๆ มีนิสัยอะไรที่เคยไม่ดีแล้วปัจจุบันเปลี่ยนแล้วก็มันดีขึ้นนะครับแล้วมันทําให้ชีวิตเปลี่ยนเนี้ยมีบ้างไหมนะครับถ้ามีเนี้ยก็คอมเมนต์บอกผมหน่อยนะครับโอเคครับ นี้ก็มีประมาณนี้นะครับพบกันใหม่หน้านะครับ สําหรับวันนี้สวัสดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น